
โจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกโรงวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา ต่อแนวทางของรัฐบาลภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เสนอให้ยูเครนยอมสละพื้นที่บางส่วนแก่รัสเซีย โดยชี้ว่านั่นคือ “นโยบายเอาใจข้าศึกในรูปแบบใหม่” ซึ่งอาจย้อนรอยความผิดพลาดทางประวัติศาสตร์
คำให้สัมภาษณ์ครั้งแรกของไบเดนกับ BBC หลังออกจากตำแหน่ง สะท้อนความกังวลต่อท่าทีล่าสุดของผู้นำสหรัฐฯ ที่อาจบั่นทอนความร่วมมือกับพันธมิตรยุโรป พร้อมเตือนว่าการยอมถอยให้รัสเซียอาจเปิดช่องให้เกิดภัยคุกคามใหม่ในอนาคต
ไบเดนให้สัมภาษณ์จากรัฐเดลาแวร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยังคงมีความเชื่อว่า “ยูเครนคือส่วนหนึ่งของรัสเซีย” และใครที่คิดว่าการยอมแบ่งดินแดนจะยุติความขัดแย้งได้ “คือคนที่ไม่เข้าใจธรรมชาติของเผด็จการ”
อดีตผู้นำสหรัฐฯ ยังแสดงความไม่เห็นด้วยกับคำแถลงของรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ และรัฐมนตรีกลาโหม พีท เฮกเซธ ที่สนับสนุนแนวคิดให้ยูเครนยอมสละพื้นที่บางส่วน เพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยไบเดนเปรียบเทียบนโยบายนี้กับความพยายามของ เนวิลล์ แชมเบอร์เลน ผู้นำอังกฤษในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่พยายามประนีประนอมกับฮิตเลอร์ ซึ่งจบลงด้วยความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
ไบเดนยังกล่าวถึงการตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2024 ว่า “แม้จะยากลำบาก แต่เป็นสิ่งที่เหมาะสม” พร้อมยอมรับว่าเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นเร็วมาก และเป็นไปไม่ได้ที่จะวางแผนล่วงหน้าได้สมบูรณ์แบบ
เมื่อถูกถามถึงความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับยุโรปในยุคทรัมป์ ไบเดนกล่าวด้วยความเป็นห่วงว่า “ยุโรปอาจเริ่มไม่แน่ใจว่า ยังสามารถพึ่งพาสหรัฐฯ ได้หรือไม่”
ด้านอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า เขาคาดหวังให้รัสเซียคงสิทธิ์ครอบครองไครเมียไว้ต่อไป และกล่าวหาผู้นำยูเครนว่าเป็นฝ่ายทำลายการเจรจา โดยปฏิเสธข้อเสนอที่รวมถึงการยอมรับดินแดนยึดครอง
ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทำเนียบขาวเกี่ยวกับข้อเสนอใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยอมรับเขตแดนใหม่ของรัสเซียในยูเครน
รายงานโดย BBC
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign